ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. ประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย ใหม่

ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ. ประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย ใหม่

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบภายใน ร่าง พ.ร.บ. ประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย ฉบับที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมใหม่จากที่มีการบังคับใช้งานในปัจจุบัน (31 ส.ค. 2565) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบภายในร่างพระราชบัญญัติ (ร่าง พ.ร.บ.) ประกันชีวิต / ประกันวินาศภัย รวม 2 ฉบับ ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมจากกฎหมายปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ในเวลานี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อเสริมแกร่งผู้ประกอบการให้มีเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเงิน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง 

ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมา เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวม 2 ฉบับ สาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายปัจจุบันที่บังคับใช้ คือ พ.ร.บ. ประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ครอบคลุมทั้งประเด็นการกำกับควบคุมธุรกิจประกันภัย การดำรงเงินกองทุน คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการหรือผู้มีอำนาจในการจัดการ รวมทั้ง การแก้ไขเพิ่มเติมบทลงโทษและการเปรียบเทียบคดีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัท มีเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเงิน ส่งเสริมกระบวนการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของบริษัทให้เป็นรูปธรรม ลดการใช้ดุลยพินิจของนายทะเบียน

ทั้งนี้ มีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ประกันชีวิต พ.ศ. 35 และ พ.ร.บ. ประกันวินาศภัย พ.ศ. 35 เช่น

1) การกำกับดูแลบริษัทประกันภัย อาทิ กำหนดเพิ่มเติมให้กรรมการของบริษัทให้รวมถึง ผู้จัดการสาขา และ คณะกรรมการบริหารของบริษัทประกันชีวิตของไทยและบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันชีวิตในไทย ให้เป็นไปตามมาตรการเดียวกัน

2) การดำรงเงินกองทุน เช่น การดำรงเงินกองทุนเพื่อเป็นหลักประกัน ในการประกอบธุรกิจของบริษัทและความน่าเชื่อถือของผู้เอาประกันและธุรกิจประกันภัย โดยบริษัทต้องดำรงเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่คณะกรรมการกำหนดและคณะกรรมการมีอำนาจกำหนดให้บริษัทดำรงเงินกองทุนเพิ่มหากพบว่าบริษัทมีความเสี่ยงสูง หรือคาดว่าจะมีความเสี่ยงสูงในอนาคต

3) กระบวนการในการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของบริษัทให้เป็นรูปธรรม เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการประกอบธุรกิจให้มีเสถียรภาพ เช่น เมื่อปรากฏว่าบริษัทมีฐานะ หรือการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน นายทะเบียนมีอำนาจสั่งแก้ไขฐานะการดำเนินงาน สั่งห้ามขยายธุรกิจ สั่งเพิ่มทุน/ลดทุน สั่งถอดถอนกรรมการ และเมื่อบริษัทมีเงินกองทุนต่ำกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ยังสามารถเข้าแทรกแซงเพื่อแก้ไขฐานะเงินกองทุน ทั้งการสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว และ/หรือสั่งปิดกิจการ ได้

4) แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษและการเปรียบเทียบคดีให้สอดคล้องกับสภาวการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลเช่น แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเรื่องการเปรียบเทียบ โดยกำหนดให้สามารถเปรียบเทียบปรับได้ทุกความผิดเพื่อจะได้ไม่ต้องส่งดำเนินคดี ช่วยลดการนำคดีขึ้นสู่ศาล เว้นแต่ความผิดที่มีผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย และประชาชนในวงกว้าง

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงผลกระทบเชิงบวกจากร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 2 ฉบับว่า นอกจากจะส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยมีเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเงิน ระบบงานและบุคลากรมีความพร้อม มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับธุรกิจประกันภัยของต่างประเทศที่สำคัญประชาชนผู้เอาประกันภัยเกิดความเชื่อมั่นในธุรกิจประกันภัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

โฆษกกระทรวงการคลังยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทะเบียนของประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้า ณ วันพุธที่ 31 สิงหาคม 2565 เวลา 15.00 น. โดยมีด้วยกันดังนี้

– ประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 แล้วจำนวน 18.76 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 71.41 ของจำนวนประชาชนรายเดิมฯ ทั้งสิ้นจำนวน 26.27 ล้านราย

– ส่วนประชาชนรายใหม่ฯ ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมครบจำนวน 2.30 แสนรายแล้ว

– ในส่วนของผู้ประกอบการร้านค้า ณ วันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมสะสมแล้วทั้งสิ้น 426,328 ร้านค้า

ทั้งนี้โฆษกกระทรวงการคลังขอเชิญชวนประชาชนรายเดิมฯ ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิ สามารถกดยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตลอด 24 ชั่วโมง และผู้ประกอบการร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 และมีแอปพลิเคชันถุงเงิน สามารถกดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินได้ทันทีตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น.

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ารายใหม่ที่ยังไม่มีแอปพลิเคชันถุงเงิน สามารถลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com หรือติดต่อลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครหรือเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยในพื้นที่เพื่อขอยืนยันการประกอบกิจการก่อนนำเอกสารไปยื่นที่สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ เพื่อดำเนินการเปิดแอปพลิเคชันถุงเงินต่อไป

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า