Meyers Leonard นักบาส NBA ประจำทีม Miami Heat ได้ถูกถอดออกจากทีม หลังได้กล่าวศัพท์เหยียด ชาวยิว ขณะทำการสตรีมเกมส์ผ่านช่องทาง Twitch Meyers Leonard นักบาส ประจำทีม Miami Heat ในลีกบาสเกตบอล NBA ได้ถูกถอดออกจากทีม (ชั่วคราว?) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ได้โพล่งกล่าวคำศัพท์ที่เป็นไปในเชิงเหยียด ชาวยิว (Anti-Semitic Slur) นอกจากนี้แล้วเขายังถูกสปอนเซอร์ถอนการสนับสนุน เช่นเดียวกับทีมงานที่ทำงานด้วยอย่าง FaZe Clan
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งขณะที่ Meyers
ได้ทำการสตรีมเกมส์ Call of Duty: Warzone ผ่านช่องทาง Twitch ส่วนตัวของตนนั้น เขาได้ทำการพลั้งพลาดเอ่ยศัพท์ที่ที่เป็นไปในเชิงเหยียดชาวยิว (Anti-Semitic Slur) ขึ้นมา “F—ing cowards, don’t f—ing snipe me, you f—ing k— bitch,” พร้อมทั้งหัวเราะขณะที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนร่วมเกมส์
ถึงแม้ว่าตัววิดีโอถ่ายทอดสดดังกล่าวจะถูกลบทิ้งไปแล้วนั้น ก็มีผู้ที่สามารถเก็บบันทึกช่วงเวลาดังกล่าวไว้ได้ และได้มีการเผยแพร่ผ่านทาง Youtube ลามต่อไปยัง Twitter อีกด้วย
ซึ่งเมื่อเขาได้กลับมาทำการสตรีมในวันต่อมา ก็ได้มีกระแสความไม่พอใจเป็นจำนวนมาจนทำให้มีการเปลี่ยนช่องสนทนาในเวลานั้นเป็น Emote Only แทน ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์เข้ามา และได้ตัดการสตรีมดังกล่าวลงไปในที่สุด
ในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีการแพร่กระจายออกไป และสื่อสำนักต่าง ๆ ของสหรัฐก็ได้มีการเล่นข่าวนี้ด้วย โดยทาง Meyers นั้นได้ทำการออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา โดยได้กล่าวขอโทษ และอธิบายว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ทราบความหมายของคำที่พูดออกไป ซึ่งก็ได้กล่าวเพิ่มอีกว่า การกระทำผิดดังกล่าว ที่เกิดจากความดื้อรั้น และความไม่รู้ถึงความหมายนี้ ไม่ใช่ข้ออ้างแต่อย่างใด สหภาพยุโรปออกมาแถลง หลังเจอว่าผู้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนทำให้ต้อง ระงับฉีดแอสตราเซเนกา
ระงับฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา – เมื่อวันที่ 12 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า คณะกรรมการยาสหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาโต้ว่า ไมพบว่าวัคซีนแอสตราเซเนกา วัคซีนต้านโควิด-19 มีความเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากที่มีหลายประเทศในแถบยุโรป เช่นเดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอซ์แลนด์ ระงับการฉีดวัคซีนชั่วคราว
โดยคณะกรรมการยังได้กล่าวอีกว่าข้อดีของวัคซีนแอสตราเซเนกานั้นมีมากกว่าความเสี่ยง และสามารถฉีดวัคซีนให้กับประชาชนต่อไปได้ ในระหว่างทางคณะกรรมการสืบหาต้นตอของสาเหตุต่อไป
เช่นเดียวกับทางการสหราชอาณาจักรที่ได้ออกมาให้คำแนะนำในทำนองเดียวกันว่า ภาวะดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติและเกิดขึ้นได้ง่าย ขอให้ประชาชนเดินทางเข้ารับฉีดวัคซีนโควดดตามเดิม
ในช่วงที่ผ่านมามีรายงานว่า มีผู้เข้ารับวัคซีนอย่างน้อย 30 คน เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จากประชาชนกว่า 5 ล้านคนทั่วยุโรปที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ชนิดดังกล่าว และมีรายงานว่ามีชาวอิตาลีวัย 50 ปีเสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังรับวัคซีนต้านโควิด
เช่นเดียวกันกับประเทศเดนมาร์กที่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังรับวัคซีนชนิดนี้ โดยขณะนี้ทางการกำลังสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป
ขณะนี้ประเทศ เดนมาร์ก, นอร์เวย์, ไอร์แลนด์ ยกเลิกการฉีดวัคซีนโควิดเป็นการชั่วคราว ขณะที่ อิตาลี และ ออสเตรีย ยุติการฉีดวัคซีนในบางล็อต โดยสองชาติใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาคนละชุดกัน
‘ไบเดน’ เตรียมอนุญาตให้ ผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนโควิด ได้
โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯเตรียมประกาศให้ ประชาชนทุกคนที่เป็น ผู้ใหญ่ฉีดวัคซีนโควิด ได้ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ฉีดวัคซีนโควิด – เมื่อวันที่ 12 สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมออกคำสั่งให้ผู้ใหญ่ทุกคนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ได้ โดยทางการสหรัฐฯเตรียมจะเพิ่มสถานที่ฉีดวัคซีน และอนุญาตให้สัตวแพทย์ และ หมอฟัน สามารถทำหน้าที่ในการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนได้
นอกจากนี้ยังมีการระบุว่าผู้นำสหรัฐฯจะอนุญาตให้ประชาชนสามารถออกมารวมตัวชุมนุมเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ หรือวันที่ 4 กรกฎาคมได้ โดยมีข้อแม้ว่าประชาชนต้องยังคงเว้นระยะห่างทางสังคม และเข้าฉีดวัคซีนโควิดแล้ว นอกจากนี้สถานที่ที่ใช้การรวมตัวเป็นสถานที่โล่งแจ้งอีกด้วย
โดยคาดว่าแถลงการครั้งนี้จะเกิดขึ้น ไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ นาย ไบเดน จะลงนามเซ็นอนุมัติเงินเยียวยาโควิดมูลค่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นร่างงบประมาณที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
ขณะนี้ประเทศสหรัฐฯอนุญาตให้ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่แพทย์แถวหน้า สามารถเข้าฉีดวัคซีนโควิดได้เท่านั้น โดยอ้างอิงจากรายงานของบลูมเบิร์กระบุว่าประเทศสหรัฐฯฉีดวัคซีนกับประชาชนแล้วกว่า 100 ล้านโดส
ประเทศสหรัฐฯ มียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 30 ล้าน และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 540,000 ราย ถือเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยสะสมและยอดผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในโลก
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง